วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

วิเคราะห์การออกแบบของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ชื่นชอบ

" วิเคราะห์การออกแบบของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ชื่นชอบ "

โปสเตอร์ "วันน้ำพุหินดาด"



                                                                http://www.gaudstudio.com/gs/?p=206
                   ทหารญี่ปุ่นได้ก่อสร้างทางรถไฟเพื่อไปประเทศพม่า ผ่านบริเวณลำห้วยกุยมั่ง พบว่า ลำห้วยแห่งนี้มีน้ำพุร้อนจึงได้สร้างบ่อเพื่ออาบน้ำร้อน ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบนหินดาดได้ปรับปรุงบ่อน้ำพุร้อน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาแวะชม และอาบน้ำแร่เป็นจำนวนมาก องค์การบริหารส่วนตำบลหินดาดจึงได้กำหนดจัดงาน วันพุน้ำหินดาด ขึ้นระหว่างวันที่21-22 พฤศจิกายน 2551 ณ บริเวณบ่อน้ำพุร้อนหินดาด ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ชาวบ้านเชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนแห่งนี้มีสรรพคุณในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหลายๆอย่าง เช่นโรคเหน็บชา ไขข้ออักเสบ นักท่องเที่ยวสามารถลงอาบน้ำในบ่อได้และที่นี้ยังมีห้องอาบน้ำส่วนตัวอีกด้วย ที่มาของชื่อหินดาดนั้นเพี้ยนมาจากหินดาน ซึ่งช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีชาวกระเหรี่ยงอพยพเข้ามาอยู่ทั้งสองฝั่งของลำน้ำแควน้อย ซึ่งบริเวณนี้มีแผ่นหินขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านเลยเรียกบริเวณนี้ว่าหินดานต่อมาเพี้ยงเป็นหินดาด มาจนถึงปัจจุบันการจัดงานวันน้ำพุร้อนหินดาดนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ประโยชน์จากการที่ได้อาบน้ำแร่และเพื่อเสริมสร้างการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีและเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่

                 สิ่งพิมพ์ที่ข้าพเจ้าเลือกคือโปสเตอร์ งานวันน้ำพุร้อนหินดาด โปสเตอร์นี้ออกแบบเพื่อเป็นการโฆษณาเกี่ยวกับงานประจำปีของน้ำพุร้อนหินดาดประจำปี 2551 ในโปสเตอร์นั้นได้บอกรายละเอียดของงานไว้ แต่ได้บอกรายละเอียดส่วนที่สำคัญอย่างเช่นสถานที่จัดงาน วันที่จัดงาน บริเวณที่จัดงาน แผนที่ที่จัดงาน การแสดงสินค้าพื้นบ้าน การประกวดไก่ชน การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง และการประกวดตำส้มตำนานาชาติ ได้ครบถ้วนทำให้ผู้ที่เข้ามาชมหรือเข้ามาอ่านโปสเตอร์นั้น ทำความเข้าใจง่ายขึ้นและรู้ว่าในงานนั้นมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นบ้าง

น้ำพุร้อนหินดาด 
 
 
                  มาอธิบายส่วนพื้นหลังของโปสเตอร์ทำให้เป็นสีฟ้าของน้ำและตัวอักษรของโปสเตอร์ก็ยังเป็นสีน้ำเงินเข้มทำให้ดูแล้วรู้สึกว่าออกแบบได้ดี สวยงาม อ่านแล้วรู้สึกว่าสบายตาอีกด้วย พื้นหลังของโปสเตอร์ก็ออกแบบเป็นรูปของน้ำและธรรมชาติ ซึ่งเข้ากับสถานที่จัดงานที่เกี่ยวกับน้ำและธรรมชาติ รูปภาพที่นำมาใส่ไว้ในโปสเตอร์ก็บอกถึงสถานที่และบรรยากาศจริงๆนั้นเป็นอย่างใด น่าเที่ยว น่าไปขนาดไหนจึงทำให้มีอิทธิพลในการตัดสินใจของคนที่ได้อ่านโปสเตอร์นี้มากขึ้นเช่นกัน

            โปสเตอร์นี้ไม่ได้มีข้อดีเพียงอย่างเดียวแต่ยังมีข้อเสียด้วย คือ ข้อความเชิญชวนให้คนมาเที่ยวในงานนั้นไม่ปรากฏขึ้นในโปสเตอร์นี้ แต่ปรากฏแค่ข้อมูลที่จัดงานเท่านั้น และตัวอักษรบางส่วนยังมีขนาดที่เล็กเกินไปทำให้คนที่เข้ามาอ่านและเข้ามาชมบางคนนั้นมองไม่เห็นชัดเจน
 
บ่อน้ำพุร้อน

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ “ซองขนม”ที่มีต่อสังคมไทย

อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ ซองขนมที่มีต่อสังคมไทย
               
                ซองขนมหรือบรรจุภัณฑ์มีอิทธิพลมากๆต่อการเลือกซื้อสินค้า ถ้าทำซองขนมหรือบรรจุภัณฑ์น่าสนใจสินค้านั้นจะโดยเป็นที่จับจ้องของคนส่วนใหญ่ โดยที่ผู้บริโภคไม่ได้นึกถึงประโยชน์และโทษของสินค้าชนิดนั้นเลย  ทำให้ผู้ผลิตยิ่งจะออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นที่น่าสนใจเพื่อนสินค้าของเขานั้นจะได้เป็นที่นิยมชมชอบ และผู้ผลิตก็ปกปิดโดยการที่เขียนโทษของสินค้าสิ่งนั้นตัวเล็กๆและอยู่ในมุมที่คนส่วนใหญ่นั้นไม่ให้ความสนใจ เช่นอยู่ในมุมล่างๆของซองขนม นั้นก็ทำให้เห็นว่าผู้ผลิตสินค้าไม่ได้ให้ความสนใจหรือสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคแต่อย่างใด

ซองบรรจุขนม

                เคยไหมคนไทยหรือคนส่วนใหญ่จะหยิบซองขนมขึ้นมาแล้วมาอ่านฉลากโภชนาการให้เข้าใจก่อนที่จะทานขนมนั้น ในปัจจุบันมีการสำรวจพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่อ่านฉลากบนซองขนมหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆซึ่งการอ่านข้อมูลฉลากโภชนาการหรือฉลากอาหารแสดงส่วนประกอบบนบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะนำไปสู่การสร้างพฤติกรรมการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ แต่จากการสำรวจผู้บริโภคเกี่ยวกับการอ่านข้อมูลบนฉลากโภชนาการ พบว่ามีน้อย ส่วนใหญ่จะอ่านวันหมดอายุกันเท่านั้น ส่วนรองลงมาก็จะอ่านส่วนผสม วันที่ผลิต ฉลากโภชนาการ และเครื่องหมาย อย. ส่วนใหญ่ของผู้ที่อ่านฉลากโภชนาการระบุว่าไม่เข้าใจความหมาย และเสนอให้ทำฉลากให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เพื่อพัฒนาให้ง่ายต่อการอ่านและการใช้ประโยชน์

ฉลากโภชนาการ
              ซองขนมนั้นยังมีผลต่อการเลือกซื้อขนมของเด็กๆอีกด้วย เด็กๆส่วนใหญ่จะเลือกซื้อขนมที่มีความล่อตาล่อใจและเป็นที่น่าสนใจของเด็กๆ โดยที่ไม่รู้ว่าสินค้าหรือขนมนั้นมีโทษอย่างไรซองขนมที่เด็กๆเลือกนั้นจะต้องมีสีสันที่สวยงามและต้องมีลวดลายการ์ตูนเยอะๆเด็กๆถึงจะชอบ ทำให้ผู้ผลิตนั้นผลิตสินค้าที่มีลวดลายสวยงามและมีลวดลายการ์ตูน โดยที่ไม่คำนึงถึงประโยชน์และโทษของขนมนั้นที่มีต่อเด็กๆ


ซองบรรจุขนม

               การที่เรานั้นให้ความสนใจแต่รูปลักษณ์ภายนอกของการบรรจุภัณฑ์โดยไม่สนใจถึงประโยชน์และโทษนั้น อาจจะทำให้โทษนั้นส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้โดยที่คุณนั้นไม่รู้ตัว อยากให้ผู้ผลิตสินค้านั้นคำถึงประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยการที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่อ่านแล้วทำความเข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็น น่าจะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารได้ง่ายขึ้น หรือแม้กระทั่งเด็กที่ซื้อขนมไปรับประทานเองก็เข้าใจฉลากเหล่านี้ได้มากกว่า แบบเดิม เพราะผู้ซื้อมีความรู้ความเข้าใจในการเลือกบริโภคที่เหมาะสมได้ อยากให้ผู้ผลิตร่วมมือกัน เพื่อประโยชน์และสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งถ้าเรื่องนี้ประสบความสำเร็จจะส่งผลให้คนไทยเข้าใจและสามารถเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้ง่ายขึ้น



วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

กล่องไปรษณีย์สีแดง

กล่องไปรษณีย์สีแดง



หนังสือสารคดีนิยาย กล่องไปรษณีย์สีแดง เรื่องนี้ได้ผ่านการนำไปสร้างเป็นหนัง ก็พบว่า ทั้งในหนัง และ ในหนังสือ ต่างก็มีประเด็น ย่อยแยกออกไปอีก เหตุการณ์นั้นจะต่างกันเล็กน้อยเพื่อรองรับบางประเด็นในหนังให้ชัดขึ้น ในหนังสือค่อนข้างจะบรรยายถึงสถานที่และผู้คน หนังสือจะคล้ายหนังสือสารคดีนำเที่ยวแต่เป็นการเที่ยวแบบค่ำไหนนอนนั่นและจุดหมายของการเดินทาง คือเพื่อหนีหัวใจของตัวเอง
               
              เรื่องราวความรักของไข่ย้อยชายหนุ่มกรุงเทพที่เรียนอยู่คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่แอบหลงรักดากานดาเพื่อนสนิทของเขามาถึง 5 ปี เขาไม่เคยได้พูดคำว่ารักออกจากปากเขาออกมาเลย นั้นก็เป็นเพราะว่าเขานั้นเป็นเพื่อนสนิทกันมา และที่เขาไม่กล้าจะบอกก็เพราะว่าเขากลัวจะเสียเพื่อนดีๆไป จึงทำให้เขาตัดสินใจที่ไม่บอกและไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ไข่ย้อยพยายามที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดากานดารู้ถึงความรู้สึกที่เขามีให้ แต่แล้วดากานดาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่และยอมรับรู้ถึงความรู้สึกเหล่านั้น และยังทำตัวเป็นปกติ เขาก็ยังคงเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม ไข่ย้อยคอยเป็นห่วง หวง และดูแลดากานดามาตลอดที่เขาอยู่ด้วยกัน ทำให้ความรู้สึกที่ไข่ย้อยมีให้ดากานดามันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวและเริ่มที่จะเกิดเป็นความรัก เวลาผ่านมาถึง5ปีไข่ย้อยก็ยังเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้คนเดียว จนมาถึงวันหนึ่งวันที่เขาสอบตัวสุดท้ายเพื่อที่จะจบการศึกษา ไข่ย้อยตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อดากานดา เขาได้บอกรักดากานดาที่ใต้ต้นชงโคหน้าตึกคณะของเขา แต่ดากานดาก็แกล้งทำเป็นเหมือนไม่เคยรับรู้ความรู้สึกนี้มาก่อน แต่ในใจของดากานดาก็คิดว่าแกทำไมเพิ่งมาบอกฉันเอาตอนนี้ ไข่ย้อยตัดสินใจบอกดากานดาแล้วและดากานดาได้รับรู้ความรู้สึกของเขาแล้ว เขาจึงได้ออกเดินทางจากพื้นที่ที่มีแต่ภูเขาล้อมรอบไปพื้นที่ที่มีแต่น้ำทะเลล้อมรอบ เพื่อต้องการที่จะหนีหัวใจของตัวเอง และออกไปพักผ่อนสมองของเขาด้วย ตลอดระยะเวลาที่เขาใช้ชีวิตอยู่ภาคใต้ เขาก็ได้เขียนจดหมายเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เขาได้พบเจอให้ดากานดารับรู้ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับเขา เขาก็ยังคงเขียนเล่าให้ดากานดาได้ฟัง และไข่ย้อยก็ยังคงใช้ชีวิตเพื่อทบทวนกับความรู้สึกของเขาที่ภาคใต้ต่อไปอย่างมีความสุข

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง "เพื่อนสนิท" ซึ่งสร้างจากหนังสือเรื่อง "กล่องไปรษณีย์สีแดง"


                เรื่องราวจากหนังสือสู่แผ่นฟิล์มอาจจะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไร แต่ก็รับรู้ได้ถึงความรักของเพื่อนที่มีต่อเพื่อน ความรักที่เคยอยากได้อะไรตอบแทน อะไรคือสิ่งที่ใจเขาต้องการ สำหรับไข่ย้อยและดากานดานั้นคำว่า...เพื่อน มันคงเป็นคำตอบที่ตอบได้ทุกคำถามมันเพียงพอแล้ว บางทีบทสรุปของความรัก ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน แค่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขน่าจะดีที่สุดแล้ว ไม่ว่า คนที่ให้ความสุขนั้น จะเป็นเราหรือไม่ก็ตาม การดำเนินเรื่องในหนังสืออาจจะไม่เหมือนหนังสือเล่มอื่นๆตรงที่ว่า หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องโดยการเขียนจดหมายเป็นฉบับๆ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนจบ ทำให้เราได้รับรู้เรื่องโดยง่ายและทำความเข้าใจได้ง่ายหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่น่าสนใจอีกเล่มหนึ่ง ที่คนอ่านไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถอ่านได้ 


                เหตุผลที่ชื่นชอบหนังสือเล่มนี้ เกิดจากเหตุบังเอิญที่มีคนชวนเราไปดูหนังเรื่อง " เพื่อนสนิท " ตอนแรกที่ดูก็รู้สึกเฉยๆ แต่นั่งดูไปเรื่อยแล้ว หนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกทั้งเศร้า สนุก และสุขไปพร้อมๆกัน ทำให้เรานั้นตัดสินใจที่จะไปซื้อหนังสือเล่มนี้ที่เขานำไปสร้างหนังมาอ่าน เมื่อเราได้อ่านแล้วเราก็รู้สึกว่าเรานั้นชอบมากกว่าเดิม ตรงที่บรรยากาศที่เขาได้พูดถึง ไม่ว่าจะเป็นทะเล ภูเขา เพราะโดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนที่ชอบจังหวัดเชียงใหม่มากๆ ชอบพอๆกับทะเลที่ภาคใต้ เมื่อใดที่เราได้หยิบหนังสือเล่มนี้ออกมา มันก็ทำให้เรานั้นยิ้มได้ทุกครั้ง หนังสือเล่มนี้อ่านจนจำได้เกือบหมด เสมือนว่าเรานั้นเป็นนางเอกเองเลย เป็นอะไรที่หน้าแปลกตรงที่ว่า อ่านซ้ำไปซ้ำมากลับเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ แต่นี้ไม่ใช่เลย หนังสือเล่มนี้กับทำให้เรานั้นยิ้มและชอบ ชอบมากขึ้นทุกๆครั้งที่อ่าน