วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ “ซองขนม”ที่มีต่อสังคมไทย

อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ ซองขนมที่มีต่อสังคมไทย
               
                ซองขนมหรือบรรจุภัณฑ์มีอิทธิพลมากๆต่อการเลือกซื้อสินค้า ถ้าทำซองขนมหรือบรรจุภัณฑ์น่าสนใจสินค้านั้นจะโดยเป็นที่จับจ้องของคนส่วนใหญ่ โดยที่ผู้บริโภคไม่ได้นึกถึงประโยชน์และโทษของสินค้าชนิดนั้นเลย  ทำให้ผู้ผลิตยิ่งจะออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นที่น่าสนใจเพื่อนสินค้าของเขานั้นจะได้เป็นที่นิยมชมชอบ และผู้ผลิตก็ปกปิดโดยการที่เขียนโทษของสินค้าสิ่งนั้นตัวเล็กๆและอยู่ในมุมที่คนส่วนใหญ่นั้นไม่ให้ความสนใจ เช่นอยู่ในมุมล่างๆของซองขนม นั้นก็ทำให้เห็นว่าผู้ผลิตสินค้าไม่ได้ให้ความสนใจหรือสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคแต่อย่างใด

ซองบรรจุขนม

                เคยไหมคนไทยหรือคนส่วนใหญ่จะหยิบซองขนมขึ้นมาแล้วมาอ่านฉลากโภชนาการให้เข้าใจก่อนที่จะทานขนมนั้น ในปัจจุบันมีการสำรวจพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่อ่านฉลากบนซองขนมหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆซึ่งการอ่านข้อมูลฉลากโภชนาการหรือฉลากอาหารแสดงส่วนประกอบบนบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะนำไปสู่การสร้างพฤติกรรมการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ แต่จากการสำรวจผู้บริโภคเกี่ยวกับการอ่านข้อมูลบนฉลากโภชนาการ พบว่ามีน้อย ส่วนใหญ่จะอ่านวันหมดอายุกันเท่านั้น ส่วนรองลงมาก็จะอ่านส่วนผสม วันที่ผลิต ฉลากโภชนาการ และเครื่องหมาย อย. ส่วนใหญ่ของผู้ที่อ่านฉลากโภชนาการระบุว่าไม่เข้าใจความหมาย และเสนอให้ทำฉลากให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เพื่อพัฒนาให้ง่ายต่อการอ่านและการใช้ประโยชน์

ฉลากโภชนาการ
              ซองขนมนั้นยังมีผลต่อการเลือกซื้อขนมของเด็กๆอีกด้วย เด็กๆส่วนใหญ่จะเลือกซื้อขนมที่มีความล่อตาล่อใจและเป็นที่น่าสนใจของเด็กๆ โดยที่ไม่รู้ว่าสินค้าหรือขนมนั้นมีโทษอย่างไรซองขนมที่เด็กๆเลือกนั้นจะต้องมีสีสันที่สวยงามและต้องมีลวดลายการ์ตูนเยอะๆเด็กๆถึงจะชอบ ทำให้ผู้ผลิตนั้นผลิตสินค้าที่มีลวดลายสวยงามและมีลวดลายการ์ตูน โดยที่ไม่คำนึงถึงประโยชน์และโทษของขนมนั้นที่มีต่อเด็กๆ


ซองบรรจุขนม

               การที่เรานั้นให้ความสนใจแต่รูปลักษณ์ภายนอกของการบรรจุภัณฑ์โดยไม่สนใจถึงประโยชน์และโทษนั้น อาจจะทำให้โทษนั้นส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้โดยที่คุณนั้นไม่รู้ตัว อยากให้ผู้ผลิตสินค้านั้นคำถึงประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยการที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่อ่านแล้วทำความเข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็น น่าจะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารได้ง่ายขึ้น หรือแม้กระทั่งเด็กที่ซื้อขนมไปรับประทานเองก็เข้าใจฉลากเหล่านี้ได้มากกว่า แบบเดิม เพราะผู้ซื้อมีความรู้ความเข้าใจในการเลือกบริโภคที่เหมาะสมได้ อยากให้ผู้ผลิตร่วมมือกัน เพื่อประโยชน์และสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งถ้าเรื่องนี้ประสบความสำเร็จจะส่งผลให้คนไทยเข้าใจและสามารถเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้ง่ายขึ้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น